ไม่มีเงิน ก็เหมือนหมา
จะเริ่มบทความ เรื่อง ไม่มีเงิน ก็เหมือนหมา ยังไงดีหว่า อืม นึกถึงตัวเองสมัยที่มาทำงานในเมืองกรุงใหม่ๆ ตอนนั้น มีเงินเดือน แต่ ไม่รู้จักคุณค่าของเงินที่หามาได้
ใช่ ตอนนั้นผมไม่รู้จักคุณค่าความเหนื่อยยากของ ตัวเองเลยซักนิด หาความสุขใส่ตัว ซื้อของฟุ่มเฟือย เบื่อก็เปลี่ยนใหม่ ไปเรื่อย ทั้งที่ก่อนที่จะเข้ามาทำงานในเมืองหลวง ตั้งใจแน่วแน่ว่าจะต้อง ทำงานหาเงิน ส่งเงินให้แม่ ตอบแทนพระคุณแม่ ที่พูดถึงแต่แม่คนเดียวเพราะว่า พ่อเสียไปแล้ว ไม่รู้จะตอบแทนพระคุณพ่อยังไงดี ได้แต่ทำบุญอุทิศให้ท่านได้เท่านั้น กลับมาเข้าเรื่องเงินไม่มี ต่อดีกว่า
ไม่มีเงิน ก็เหมือนหมา คำนี้ พี่หัวหน้างานที่ ก็สอนผมและด่าผมได้อยู่ทุกวัน (ปัจจุบันยังสอนและด่าผมอยู่เลย ฮ่าๆๆๆ) ชีวิตจริง ของคน เป็นแบบนั้นจริงๆ ไม่มีเงิน คนก็ไม่นับหน้าถือตา ไม่ให้ความสำคัญ เพื่อนฝูง ก็ไม่มี แต่พอมีเงินหน่อย ไม่รู้เพื่อนฝูง มาจากไหน มาที มากกว่าฝูงหมาซะอีก แต่พอไม่มีเงิน แม้แต่ หมา ยังไม่มองเลย และโลกมนุษย์ ก็เป็นเช่นนี้แล
ก่อนที่จะถึงวันที่ไม่มีเงิน เชื่อว่า ทุกคนพอมีเงินอยู่บ้าง ไม่มากก็น้อย พอเลี้ยงตัวเองและคนในครอบครัวได้ ก่อนจะถึงวันนั้น วันที่ไม่มีเงิน เรารู้จักคุณค่าของเงินกันหรือเปล่า เรามีการเก็บส่วนที่เราต้องเก็บไว้บ้างหรือเปล่า เราคิดไว้บ้างหรือเปล่า ถ้าวันหนึ่งข้างหน้า เราไม่มีเงิน จะทำอย่างไร เชื่อว่าหลายคนไม่คิดหรอก พอมีเงินหน่อย มันจะหลงลืมตัวเองไปชั่วขณะ
มีเพื่อนคนนึง แวะเวียนมาหาผมอยู่บ่อยๆ เขาแนะนำผมว่า มีครอบครัว มีรายได้จากการทำงาน ควรจะแบ่งเงินเป็นใส่กระเป๋า 3 ใบ กระเป๋า 2 ใบ ให้คนในครอบครัว รู้ได้ แต่อีก 1 กระเป๋า ไม่ควรให้ใครรู้ นั่นเป็นเพราะเพื่อนรุ่นพี่คนนี้ มีประสบการณ์ที่เลวร้ายในครอบครัว สิ้นเนื้อประดาตัว เพราะมีกระเป๋าใส่เงินแค่ 2 ใบ ก็น่าสงสารและเห็นใจเพื่อนรุ่นพี่คนนี้อยู่ แต่ผมไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้มากกนัก
พึงระวังไว้ให้ดี มีเงิน ต้องรู้จักเก็บบางส่วนไว้ เพราะว่า วันพรุ่งนี้ ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตที่ไม่แน่นอน
ภาพประกอบ จาก อินเตอร์เน็ต
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)