ที่ผมนำเพลงนี้มาเขียน เพราะ ผมก็เป็นคนบ้านนอก (ชนบท) คนนึงเหมือนกัน ลูกอีสาน แท้ๆ เข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ เมืองสวรรค์ เมืองศรีวิไล แต่สิ่งที่พบเห็น ในเมืองสวรรค์ เมืองศรีวิไล มันต่างจาก สังคมบ้านนอก ของผมอย่างสิ้นเชิง สังคมบ้านผม กินข้าว บ้านนี้ ไปกินน้ำบ้านโน้น แล้วแวะ มานั่งกินขนมหวานตบท้ายอีกบ้านนึง
ความเหลื่อมล้ำที่เป็นปัญหาอยู่ทุกยุคทุกสมัย ความแตกต่างระหว่างคนเมือง กับคนชนบท แ้ก้ยังไงก็เป็นเรื่องยาก หลายปีผ่านไป คนจน ก็ยังจนอยู่อย่างนั้น คนรวยยิ่งรวยขึ้นไป สิ่งที่คนจนต้องการคือความเ็ป็นอยู่ที่ดีขึ้นไม่ต้องอดอยาก มีเสื้อผ้าใส่ ตามอัตภาพเข้าถึงสวัสดิการของภาครัฐอย่างทั่วถึง ไม่ได้หวังรวย แค่มีคุณภาพชีวิตที่ดีก็เพียงพอ (่ใครอยากรวยก็ปล่อยให้รวยเสียให้เข็ด)
สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมก็เพิ่งจะกลับต่างจังหวัดไปทำบุญครบรอบวันตายพ่อ ก็เห็นชาวนา หลายจังหวัดที่ผ่าน หว่านข้าว ทั้งที่ในนา ยังไม่มีน้ำเลย (หว่านข้าวคอยฝน) ถ้าฝนไม่ตก คงลำบากกันน่าดู รัฐบาลคง
ไม่มีปัญญา ทำให้ฝนตกได้ ก็น่าเห็นใจรัฐบาล (นิดนึง)
นั่งฟังเพลง ลูกลุงขี้เมา ก็มองเห็นสัจธรรมอย่างนึง "ถึงจะมาจากที่กันดาร แต่ถ้ามีเงิน ก็เป็นใหญ่ได้" ทำให้ทุกคน ต้องดิ้นรนหาเงิน สร้างฐานะให้ตัวเอง จะไ้ด้มีคนนับหน้าถือตา เพราะมีฐานะี ก็คงจะจริง "ไม่มีเงิน ก็เหมือน หมาตัวนึงเท่านั้น"
ลองหาเพลงนี้มาฟัง ดูนะครับ มีสาระดี เนื้อหาดี ทำนองก็เพราะ