พระอรหันต์ ในบ้านเรา

ในภาพที่นำมาใส่ไว้ในบล็อกแห่งนี้ เป็นรูปถ่ายของผู้หญิงที่สวยที่สุด...... ในบ้านของผมครับ ในบรรดาลูกๆ ของผู้หญิงในรูปภาพนั้น ไม่มีใครจะสวยเท่าเขาได้เลย เพราะบรรดาลูกๆ ทั้งสามคน นั้น เป็นผู้ชายทั้งหมด รวมทั้งผมด้วย ครับ แม่ผมจึงเป็นผู้หญิงที่สวยและประเสริฐที่สุดของพวกเรา สามพี่น้อง ผมเป็นลูกคนที่สองของแม่

พ่อแม่ คือผู้ประเสริฐสำหรับลูกๆทุกคน บทความนี้ผมจึงเขียนเพราะว่า วันแม่ที่ผ่าน ผมทำงานเพลินจนลืมพระอรหันต์ องค์นี้ไป องค์ที่ประเสริฐ ที่สุด ผู้ให้ชีวิตผม อบรม ให้ความรู้ ส่งผมเรียน และเลี้ยงดูผมจนเติบใหญ่ขึ้นมา สรุปว่า ปีนี้ (2555) ผมเป็นลูกที่ไม่ได้ความเลยจริงๆ ทำงานเพลิน จนลืมท่านไป จนท่านต้องโทรมาด้วยตัวเอง แต่แม่ผมไม่เครียดนะ ท่านหัวเราะชอบใจ ที่ได้ยินเสียงลูกชายคนนี้ 

ในรูปถ่าย แม่ กำลังตีฆ้อง แต่ไม่ร้องป่าว นะครับ ทุกครั้งที่ผมกลับไปบ้าน ผมมักจะชวนแม่ไปกราบ พระธาตุ นาดูน แห่งนี้ พระธาตุนาดูน ตั้งอยู่ที่ อำเภอ นาดูน จังหวัดมหาสารคาม ขับรถไป 26 กิโลเมตร ก็ถึง เคยชวนเพื่อนๆ และ น้องๆ ในที่ทำงานไปเที่ยวด้วย ต่างก็ชอบอกชอบใจกันใหญ่ เพราะ ได้วัตถุมงคลกลับ   พระธาตุนาดูนแห่งนี้ เริ่มก่อสร้างเพื่อบรรจุ พระบรมธาตุขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ส่วนใหนนั้นผมจำไม่ได้ เริ่มก่อสร้างตั้งสมัยที่ผมยังเป็นเด็กประถมอยู่เลย เคยไปดูตอนที่เขากำลังก่อสร้าง สมัยนั้น มันใหญ่โตมาก และที่อำเภอนาดูน แห่งนี้ ยังมี หลายพื้นที่รอบๆ บริเวณพระธาตุ ได้ค้นพบ วัตถุโบราณ อายุ กว่า 2,000 ปี สองพันปี เชียวนะครับ

จำได้ว่า สมัยที่ผมยังเป็นเด็ก มีรถบรรทุกดินที่ขนมาจาก บริเวณพระธาตุ มาเทไว้ที่ ใกล้ๆบ้าน ผมกับพี่ชาย ออกไป เกลี่ยๆ ขุดๆๆ ได้พระเนื้อดิน มา ก็หลายองค์ เป็นพระเก่าๆทั้งนั้น สภาพพระก็ไม่ได้สวยหรอกครับ แต่คุณค่าทางใจมากล้นจริงๆ ทุกวันนี้ ไม่มีใครไปขุดแล้วครับ เพระเจอดีกันถ้วนหน้า

ว่าจะเขียนเรื่องพระอรหันต์ในบ้าน ร่ายเรื่องพระธาตุซะยาวเลย
พ่อแม่ทุกคน เป็นพระอรหันต์ที่อยู่ในบ้านของทุกคน ท่านมีน้ำใจบริสุทธิ์ต่อลูกๆ ทุกคน ไม่ลูกๆของท่านจะดีจะชั่ว เชื่อเถอะ ยังไงพ่อแม่ท่านก็รักลูกๆ ทุกคน เท่ากันหมด ไม่มีลำเอียง แต่ลูกๆ พอเติบใหญ่ ได้ดิบได้ดี หรือไม่ได้อะไรเลย ก็ช่าง มักจะลืมพระคุณอันยิ่งใหญ่ของพ่อกับแม่ ไม่งั้น กระทิงแดง คงไม่ทำโฆษณา ออกมาหรอกครับ

ผมเชื่อว่า ในวัยเด็ก เราทุกคน ต่างก็ ไร้เดียงสา ซุกซน รู้เท่าไม่ถึงการณ์  เคยหยิก ข่วน เตะ ด่าทอ พ่อแม่ ด้วยควาไม่พอใจ ที่ท่านห้ามโน่นห้ามนี่ไปหมด แต่เราทุกคนกับไม่รู้ว่า สิ่งที่ทำลงไปนั้น พ่อแม่ ไม่ได้ถือโทษหรือโกรธเคืองพวกเราเลย ตรงกันข้าม ท่านยิ่งรักพวกเรามากขึ้น ผมเชื่ออย่างนั้นนะ

ทำบุญใส่บาตร สร้างพระประทาน หรืออะไรก็ตามแต่ ผลบุญเหล่านั้น ยังไม่เทียบเท่ากับที่เราทำบุญกับพ่อแม่ ผมจำได้ วันที่ผมบวชให้แม่ น้ำตาแม่ใหลออกมาเป็นทางเลยแหละ เพราะ ท่านปลาบปลื้ม ยินดี  ตั้งแต่เกิดมา พวกเราทุก ก้มกราบเท้าพ่อแม่ กัน อยู่บ่อยๆ แต่วันที่ผมบวชเป็นพระ ทันทีก้าวเท้าออกมาจากโบสถ์ที่ทำพิธีบวชเสร็จ คนแรกที่ก้มกราบเท้าพระใหม่อย่างผม คือแม่ของผมเอง

ท้ายบทความ ขอให้พวกเราทุกคน รักและเคารพพ่อแม่ให้มาก เพราะชั่วชีวิตนี้ พวกเราทุกคน มีพ่อแม่ แค่คนเดียวเท่านั้น  พ่อแม่ผู้ทำให้เกิดมา และดูแลเราจนเติบใหญ่เป็นคนอยู่ทุกวัน ล้วนเป็นน้ำใจอันบริสุทธิ์ของท่านทั้งสอง อย่าได้ทำร้ายพ่อแม่ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมกันอีกเลยนะครับ