ลุ้นระทึก ถึงจุดหมาย

เทศกาลสงกรานต์ ของทุกปี มักจะมี อุบัติเหตุ เกิดขึ้นบ่อย ถึงตายเลยก็เยอะ ปกติ ทุกปี ผมจะไม่นิยมเดินทางไปต่างจังหวัด ช่วงเทศกาล เพราะ เหตุผล ว่า มันน่าเบื่อ ที่ต้องไป เบียดเสียด แย่ง ตั๋ว แย่งกันขึ้นรถเพื่อเดินทางไป ต่างจังหวัด กลับภูมิลำเนา เมื่อหลายปีก่อน ผมเคยเดินทางไปกับขบวนผ้าป่า ไปทอดที่ต่างจังหวัด ออกเดินทาง เวลา สองทุ่ม ตามกำหนดเวลา เช้าวันรุ่งขึ้น ควรจะได้ทอดผ้าป่า แล้วผมก็จะเดินทางกลับบ้านต่อ แต่พอลืมตามขึ้น ในตอนเช้าของวันรุ่งขึ้น ปรากฏว่า ผม นั่งอยู่บนรถผ้าป่า และรถ จอดติด อยู่ แถวๆ ปริมณฑล อึ้งครับ น้ำก็ไม่ได้อาบ ฟัน ก็ไม่ได้แปรง ขี้ตา ก็ ติดเด็มไปหมด อิอิ ไม่ได้ซกมกนะครับ สถานการณ์พาไป กว่าจะถึงวัดที่ทอดผ่าป่า ก็เป็น เวลา สองทุ่ม พอดี ตกลง ผมเดินทาง 24 ชั่วโมงพอดี ไม่ขาดไม่เกิน

สงกรานต์ปี 2554 ผมมีโอกาศได้เดินทางใกล อีกครั้ง ครั้งนี้ ก็อาศัยรถประจำทางนั่นแหละ เพราะ รถส่วนตัว ยังไม่มี ระหว่างเิดินทาง คนขับรถโดยสาร ขอเรียกว่า คุณปู่ละกัน เพราะ แก แก่ มากๆ แต่ยังมาขับรถรับส่งผู้โดยสาร แทนที่จะได้พักผ่อน ระหว่างทางขึ้นเขาที่สูงชัน คุณปู่แก ออกรถ ยังไงไม่รู้ รถดับ แล้วก็ไหล ถอยหลังไปนิดหนึ่ง เป็นแบบนี้สามครั้งติดๆ แล้วคุณปู่แกก็ถามเด็กรถว่า เฮ้ย นี่เกียร์อะไรวะ
โถ คุณปู่ เป็นคนขับ ยังไม่รู้เกียร์ ผู้โดยสารจะเชื่อใจคุณปู่ได้หรือเปล่าเนี่ย ผมลุ้นในใจ ขอให้ไปถึง จุดหมายด้วยเถอะ สาธุ

ความเข้มแข็ง ช่วยแก้ปัญหาได้

"ความเข็มแข้ง จะช่วยแก้ปัญหาได้" เป็นคำพูดของอากง แกกำลังสอนหลานชาย จากละครโทรทัศน์ เรื่อง โรงงานสำราญใจ ทาง ทีวีไทย ละครหลังข่าวช่องนี้ อาจจะไม่โด่งดัง เหมือนช่องอื่นๆ เพราะ ไม่เน้นบท ตบตี ด่ากัน ออกอากาศ ถ้าเพิ่มบท อิจฉา ริษยา ตบตี ด่ากันลั่นจอ เข้าไป คิดว่า คงได้รับความนิยมไม่แพ้กันหรอก แต่ ไม่อยากให้ ทีวีไทย ทำละครแนวนั้น มันเน่าจนน่าเบื่อ แต่คนก็ชอบดู  ของดีๆ ไม่ดู ชอบดูของไม่ดี

คนเรา เมื่อ อ่อนแอ ทั้งกายใจ ความคิดเราก็จะตีบตันไปด้วย เหมือนในละคร โรงงานมีปัญหา คนแก้ปัญหา ก็แก้ไป คนสร้างปัญหา ก็สร้างไป จนคนแก้ปัญหา อ่อนแรง อากง จนต้อง คอยเตือนสติหลาน ให้ เข้มแข็งเข้าไว้ เพราะเมื่่อเราเข็มแข็ง ประสิทธิภาพที่มีอยู่ตัวเราก็จะฉายแสงออกมาเอง ไม่ว่าจะเครียด ท้อแท้ แค่ไหน ขอ เพียง กำลังใจเราเข้มแข็ง ปัญหาทุกอย่าง จะแก้ได้เสมอ เพราะทุกปัญหามีทางออกเสมอ ช้าเร็ว เราก็ต้องเจอ ทางออกของปัญหาแน่นอน

นั่งดู ข่าวภาคค่ำ ทีวีไทย มานาน ประทับใจตรงที่ ไม่เจอข่าว สามีภรรยา คู่หนึ่ง เพิ่งจะหย่าร้างกัน ข่าวนี้ เกิดขึ้้น เมื่อหลายวันก่อน ผมก็เห็น ทางหนังสือพิมพ์ แต่ไม่ได้อ่าน เพราะผมไม่รู้จะอ่านไปทำไม ก็แ่ค่ข่าว สามี หย่า ภรรยา เท่านั้น ในสังคม มีเยอะแยะ  ไม่เห็นแปลกตรงไหน เลย สองคนนี้ ก็เป็นแค่ มนุษย์เดินดิน ขี้เหม็นเหมือนกัน เพียงแต่มีชื่อเสียงเท่านั้นเอง ส่วนอื่นๆ ดูแล้ว ก็เหมือนคน ทุกอย่าง ประทับใจทีวีไทย ตรงนี้แหละ ที่ไม่ต้องมานั่งดู นั่งฟังผู้ประกาศข่าว เรื่องผัวเมีย แยกทางกัน มันไร้สาระสิ้นดี

เตือนภัยแก็งต้มตุ๋น คนเล่นหวย


จดหมายที่ได้รับฉบับแรก จากแก็งต้มตุ๋นหลอกหลวง หรือ อาจจะเป็นเรื่องจริง ก็ไม่อาจจะรู้ได้ เบื้องต้น เข้าใจว่า เป็นแก็งตุ้มตุ๋นไว้ก่อน จริง หรือ เท็จ ประการใด ผู้อ่าน ใช้วิจารณญาน ตรวจสอบได้เลยครับ 
ยังมี อีก ฉบับ  ให้พิจารณา กันครับ 
จดหมายฉบับนี้เป็นฉบับที่สองที่ได้รับมา ลงวันที่ 4 มกราคม 2554  หวยจะออก ในงวด วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2554 นี้ 
เตือนภัยด้วยความหวังดี นะครับ
ภาพเล็กเกินไป อาจจะเห็นไม่ชัด เซฟไป เปิดอ่านได้เลยนะครับ 

โลกออนไลน์

หลายคนอยากหารายได้เสริม อยากทำงานออนไลน์ เพราะ ยุคสมัยที่มีเทคโนโลยีเข้ามา ทุกอย่างหาได้ทางอินเตอร์เน็ต แม้แต่สมัครงานออนไลน์ ยังทำได้เลย แค่กรอกใบสมัครไว้ ไม่นาน ก็จะมีคนติดต่อไปสัมภาษณ์ จนบางคน ใช้ช่องทางนี้ ในการหลอกลวงผู้อื่นให้หลงเชื่อ ตัวอย่างมีให้เห็นมาแล้วมากมาย
แต่โลกออนไลน์ซึ่งทั้งแหล่งข้อมูล ความรู้ รวมทั้ง ด้านมืดในโลกออนไลน์ก็มีเยอะ

การจะหางานทางเน็ต เป็นสิ่งที่ควรระวังเป็นอย่างมาก ธุรกิจออนไลน์ส่วนใหญ่ก็เป็นธุรกิจเครือข่ายที่เกิดขึ้นสมัยก่อน แต่ปัจจุบันมีการพัฒนาแพร่หลายทางอินเตอร์เน็ต บางคนหลงเื่ชื่อ หารายได้เสริมทางอินเตอร์แล้วลงทุนไปมากมาย แต่สุดท้ายก็เสียเงินเปล่าๆ ไม่ประสบความสำเร็จในการทำงานออนไลน์ อยากทำงานที่บ้าน อยากสบาย ไม่ต้องเป็นลูกน้องใคร แต่สุดท้ายก็ช้ำใจ


งานทางเน็ตจริงๆ มันก็มีแล้วแต่ว่าใครจะเืลือกได้ถูก ที่ควรจะเข้าไปหางานทางอินเตอร์เน็ตคือ ควรจะเป็นของส่วนราชการจะปลอดภัยมากที่สุด เช่น กรมการจัดหางาน หรือ เว็บสมัครงานทั่วไป ที่มีที่อยุ่ติดได้ อ้างอิงได้ เหล่านี้จะปลอดภัยสำหรับ ผู้ที่กำลังมองหา งานออนไลน์ หารายได้เสริม ก็มีเว็บที่สอนอาชีพมากมาย เช่น กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อย่าเสี่ยงหาเงินทางเน็ต กับเว็บที่ให้รายได้สูงๆ เป็นเครื่องมือ

สุดท้าย คนที่เสียใจคือตัวท่านเอง

คน พาช้าง ไปเร่ร่อน

เห็นข่าวภาคค่ำ มีเสนอ กฎหมายบังคับ ช้างเร่ร่อน กฎหมายฉบับนี้ จะเอาผิดกับ คนที่พาช้างมาเร่ร่อนในกรุงเทพ คนซื้ออ้อยให้ ช้างเร่ร่อน ก็มีความผิดด้วย

หลายวันก่อน ผมก็แวะซื้อก๋วยเีตี๋ยว ก็เห็นช้างเร่ร่อน ผมก็ให้สตางค์ไป ยี่สิบบาท ส่วน คนถืออ้อย จะให้ช้างหรือไม่ให้ผมไม่ได้ใส่ใจ ถือว่าผมทำบุญ สงสารทั้งคน ทั้งช้าง  โดยส่วนตัวผมคิดว่า ช้างที่เข้ามาเร่รอน ส่วนใหญ่ น่าจะมาจาก ภาคอีสาน หรือ จังหวัดสุรินทร์ ส่วนภาคกลางและ ภาคอื่น ผมคิดว่า พื้นที่อุดมสมบูรณ์กว่า ช้างมีอาหาร คนเลี้ยงช้างก็ไม่ได้เดือดร้อนเท่าที่ควร ไม่เหมือน ภาคอีสาน ปีนึง ทำนาได้แค่ครั้งเดียว หมดฤดูทำนา ก็ไม่มีอะไรทำ อากาศก็แห้งแล้ง คนอาจจะอดตาย ช้างก็พลอยจะตายไปด้วย ด้วยความจำเป็น ต้องมีชีวิตต่อไป ถ้าผมเป็นคนเลี้ยงช้าง ผมก็ต้องดิ้นรน หาหนทาง ไม่ให้ครอบครัวอดตายแน่นอน

ด้วยเหตุนี้ แม้จะออกกฎหมายมาบังคับ ก่อนจะอดตายขอให้มีชีวิตรอดไว้ก่อน ถ้าผมเป็นคนเลี้ยงช้าง ผมไม่สนใจหรอก กฎหมายฉบับนั้น ผมกลับคิดว่า ถ้าจะออกกฎหมายบังคับ ทำใม ไม่แก้ปัญหา เรื่องปากท้อง ของทั้งคน ทั้งช้าง ให้เป็นรูปธรรม น่าจะดีกว่า ถ้าคนไม่เดือดร้อน ก็ไม่พาช้างที่เลี้ยงมา ทั้งรัก ทั้งสงสารช้าง แต่ก็ต้องพามาเร่ร่อน เพื่อปากเพื่อท้อง

สงสารคนเลี้ยงช้างครับ

อนาคตของเด็กไทย กับผู้ใหญ่ที่เป็นตัวอย่าง

ขณะที่เขียนบล็อก ก็ผ่านพ้นวันเด็กแห่งชาติไปแล้ว ล่วงเ้ข้าสู่วัีนที่ 9 มกราคม 2554 แล้ว ประสาทหู แว่วได้ยิน เสียง วงเหล้า กำลัง ร้องรำ ทำเพลง มาไม่ขาดสาย ก่อนวันเด็กไม่กี่วัน นั่งดูทีวี เห็นเด็กๆ ที่นักข่าวไปสัมภาษณ์ หลายคน อยากให้พ่อ แม่ ผู้ปกครอง เลิกเหล้า แต่สิ่งใกล้ตัวผม ที่เห็น ในวันเด็ก ทุกปี หลังจากเลี้ยงเด็กๆ แจกขนม ให้ของขวัญแล้ว (ที่คอนโดที่ผมพักอาศัย มีกิจกรรมวันเด็กทุกปี) พ่อแม่ผู้ปกครองเด็กๆ นั่งดวลเหล้ากันต่อ นั่นคือสิ่งที่ผมพบเห็นทุกปี

ยิ่งไปกว่านั้น เด็ก อายุ 2 ขวบ รู้จัก(ด่า) เหี้ย แล้วด้วย ความจริง สัตว์เลื้อยคลานที่ ชื่อ เหี้ย ผมก็เพิ่งจะมารู้จักตอนอายุ 20 กว่า ๆ เอง เพราะเป็นคนบ้านนอก แถวบ้าน สัตว์ชนิดนี้ ไม่มี  รู้จักแต่ วัว แต่ ควาย เท่านั้น (เวลาที่ได้ยิน คนทะเลาะกัน ด่ากันนะ)

สงสารเด็กๆ บางคน พ่อแม่ มานั่งในวงเหล้า แล้วเอาลูกนั่งตักอีกต่างหาก หรือที่โตหน่อย ก็วิ่งเล่น ใกล้ ที่พ่อ นั่งกินเหล้า พอเด็กไม่ทำการบ้าน ก็ ด่า ว่า จะให้เด็กนั่งทำการบ้านได้ยังไง ก็พ่อ กับแม่ มัน พาไปนั่งดู ตัวเอง กินเหล้า ซะงั้น

เด็กในวันนี้ คือผู้ใหญ่ ในวันหน้า
เด็กในวันนี้ คืุอผู้ใหญ่ (ขี้เหล้า) ในวันหน้า

สวัสดี ปี 2554

เริ่มต้นปี 2554 เริ่มต้นวันใหม่ ของปี 2554 ด้วยความเป็นศิริมงคลแก่ชีวิต ด้วยการ ไปใส่บาตร ก่อนเที่ยงคืน วันที่ 31 ธันวาคม 2553 เล็กน้อย กำลังจะเข้านอน ก็นอนไม่หลับ เพราะ เสียงประทัด เสียงพลุ ดังสนั่น จนเลย เที่ยงคืนไปแล้ว ตั้งแต่เกิดมา ผมยังไม่เคยได้ นับถอยหลัง หรือ เคาน์ดาวน์ กับเขาเลย หลับอย่างเดียว คงเป็นเพราะผมไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เท่าที่ควร เป็นเหตุผลและความคิดเห็นส่วนตัว

การเริ่มต้นปีใหม่ของผม ผมให้ความสำคัญ ด้วยการตื่นแต่เช้าไปทำบุญใส่บาตรพระ เริ่มต้นด้วยความเป็นศิริมงคล แบบนี้ ทุกปี เรื่องอะไร จะไปอดหลับอดนอน แล้วตื่นสายไปใส่บาตรพระไม่ทันล่ะ การไปนั่ง หรือยืน นับถอยหลัง บางคนไป ก็อาจจะไม่ได้ นับด้วยซ้ำ เพราะ เมาซะก่อน ส่วนคนที่ยังไม่เมา ก็คงจะไม่มีสติพอที่จะนับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่ได้

คนที่เข้ามาอ่านบล็อกนี้  อ่านบทความนี้ของผม ขอท่าน ประสบแต่ความโชคดี มั่งมีความสุข หมดทุกข์ หมดโศก ประสบแต่ความสุขความเจริญก้าวหน้า ด้วยประการทั้งปวง ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้าน คู่เมืองทั้งหลาย อำนวยพรให้ท่าน และ ครอบครัวของท่าน ญาติสนิท มิตรสหาย ของท่าน ผู้มีพระคุณของท่าน จงมีความสุขตลอดปี 2554 และ ปี ต่อๆ ไป ด้วยเทอญ