แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ วันแม่ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ วันแม่ แสดงบทความทั้งหมด

สายใยรัก... ของแม่

บทความแรกของเดือน สิงหาคม 2553 หลังจากที่ วุ่นวายกับหลายๆเรื่อง ที่ผ่านมา แต่ละเรื่องหนักเอาการเหมือนกัน วันแม่ เราทุกคน จะบอกรักแม่กัน ในวันนี้ มอบดอกมะลิให้แม่ ส่วนผม ปีนึง ผมจะกลับบ้านหนเดียว คือ ครบรอบวันตายของพ่อเท่านั้น พอวันแม่ ได้แค่โทรศัพท์ไปหาแม่เท่านั้น ถ้าจะกลับไปกราบเท้าแม่ ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่ผมก็มีปัญหาเรื่องที่ทำงาน ไม่ใช่รักงานมากกว่าแม่ นะครับ

จากเดิมก็แค่พนักงาน ธรรมดา พอมีวาสนาหน่อย ได้นั่งเก้าอี้ผู้จัดการ ถึงได้เข้าใจว่า จะหยุดงานที ลำบากเหมือนกัน ห่วงนั่น ห่วงนี้ ไปหมด เลย อดกลับบ้านไปกราบเท้าแม่ ทั้งที่เมื่อก่อน ตอนเป็นพนักงานธรรมดา กระจอกๆ อยากหยุด ก็เขียนใบลา ก็ได้หยุด เมากัญชา มาทำงานไม่ได้ โทรไปลา ก็ได้หยุด นี่คงเป็นข้อเสียของการมีวาสนามังครับ

แม่ของผม ท่านชอบไปทำบุญ เพื่อนบ้านชวนไปทำบุญ ที่ไหน ท่านก็ไปด้วย แล้วก็โทรมาเล่าให้ผมฟัง แม่ผม ท่านขอพร ให้แต่ลูก ชายทั้งสามของท่าน ประสบแต่ความสุข ความเจริญ รุ่งเรือง กันทุกคน วัดเขาสุกิม วัดหลวงปู่แหวน หล่อพระ สร้างโบสถ์ เพื่อนบ้านชวนไปท่านไปหมด ผมก็อยากให้ท่านไปเหมือนกัน อยากให้ ท่านได้เที่ยว บ้าง ตามประสาคนแก่ แม่ผมอายุ 60 เข้าสู่วัยชราแล้ว

ปัจจุบัน บริษัท ที่ผมทำงาน ปิดกิจการแล้ว พนักงานทุกคน ถูกเลิกจ้างกันหมด นี่คงเป็นความโชคร้ายของพนักงานทุกคน ส่วนผม ในความโชคร้ายที่บริษัท ปิดกิจการ ก็ยังมีโชคดีอยู่นิดหน่อย คือ บริษัท ยังจ้างให้ผมอยู่ต่อ จนกว่า จะแจ้งปิดกิจการ จริง หมายความว่า บริษัท เลิกผลิต ปิดกิจการ แต่ทางเอกสาร ยังไม่ปิด เพราะยังมีภาระผูกพันกับหลายๆ เรื่องอยู่ ยังไม่สามารถปิดได้ทัีนที

ผมมานั่งนึก นี่คงเป็นผล ที่แม่ไปทำบุญขอพรพระให้ผม มัง ผมถึงได้ยังมีพอโชคดีอยู่นิดหน่อย
สายใยรักของแม่ไม่เคยขาดหาย ไม่่ว่าเราจะลำบากขนาดไหน ผมเมากัญชา แม่ไม่เคยรู้ ถ้าแม่รู้เรื่องนี้ ท่านคงจะเสียใจมาก เพราะ พี่ชายคนโตของผม ก็เพิ่งจะเลิก ยาบ้าได้ ไม่กี่ปีเอง
ส่วนผม ในสายตาคนอื่นมอง ผมเป็นเด็กดี แต่บางครั้ง ผมก็อยากลองอะไรที่สุดขั้วบ้าง แต่ก็ัโชคดีที่ไม่ติด

สายใยรักของแม่ไม่เคยขาดหาย จะดีจะชั่ว แม่ก็รักเราอยู่เสมอ ครับ

รักครั้งแรก

หลายคน มีรักครั้งแรก กันทั้งนั้น ครับ และทุกคนก็มักจะจดจำ รักครั้งแรก แล้ว มาเล่ากัน ว่าเป็นอย่างนั้น อย่างนี้ บางครั้ง เล่ากันไป ยิ้มกันไป บางครั้ง เล่าไป ร้องไห้ ไป ก็มี และผมเชื่อทุกคน มีรักครั้งแรกเกิดขึ้นกับทุกๆ คน และ รักครั้งแรก ของทุกคนนี้ ล้วนแต่ สมหวังในความรักกัน ทุกคน ไม่มียกเว้น ครับ

มาถึงตรงนี้ คงมีคนแย้งผม ว่า ไม่จริง รักครั้งแรก ส่วนใหญ่ จะผิดหวัง กันทั้งนั้น ผมก็ขอยืนยันอีกครั้งครับ
ว่า รักครั้งแรก ของทุกคน สมหวังในความรัก 100 % เต็มครับ ส่วนรัก ที่ใครหลายคน บอกว่า ผิดหวังนั้น ไม่ใช่รักครั้งแรก หรอก เป็นครั้งที่เท่าไหร่ ไป นั่งหลับตานึกเอาเองครับ

ความจริง ความรักครั้งแรก ที่เกิดขึ้นกับพวกเราทุกคนบนโลกเล็กใบนี้ ความรักนี้ กว่าเราจะรู้คุณค่า ก็ปล่อยเวลาให้ผ่านเนินนาน ไปเหมือนกัน บางคน ใช้เวลาหลายสิบปี กว่าจะเข้าใจ บางคนใช้เวลาน้อยกว่านั้น และบางคน ทั้งชีวิต ไม่เข้าใจ ก็มี

เดือนหน้า (สิงหาคม) จะมีวันสำคัญ วันหนึ่ง สำหรับ คนที่หา บทความผมเจอ และได้อ่าน สิ่งที่ผมเขียน
พอถึงวันสำคัญ กลางเดือนสิงหา คม คงจะเข้าใจ นะครับ

ว่า รักครั้งแรก ของ พวกเรา เกิดขึ้นเมื่อไหร่????

เมื่อซัก 2-3 ปีก่อน เคยได้รับ อีเมลล์ ฉบับนี้ จนทุกวัน ยังเก็บไว้อยู่ เลย นำมาให้อ่านกันครับ
ทบทวนความจำกัน ครับ


แปดครั้ง ที่แม่โกหก  
1.
เรื่องเริ่มขึ้นตอนเมื่อผมเป็นเด็ก ๆ
ผมเกิดในครอบครัวยากจน ครอบครัวของเราจนมากจนต้องอดข้าวบ่อยๆ เมื่อไหร่ก็ตามเมื่อถึงเวลากินข้าว...แม่จะแบ่งข้าวมาให้ผมเพิ่มขึ้นอีก พร้อมทั้งพูดว่า"ลูกต้องกินข้าวเพิ่มขึ้นนะ...ส่วนแม ่ไม่ค่อยหิว" นี้เป็นครั้งแรกที่แม่โกหกผม
2.
เมื่อผมเติบโตขึ้น
คุณแม่เพียรพยายามหาเวลาว่างไปตกปลาในแม่น้ำ เพื่อว่าผมจะได้กินอาหารที่มีประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตของผม แม่ต้มปลาที่ตกมาได้ทำเป็นซุปให้ผมกิน ในขณะที่ผมกินแกงต้มปลา..แม่จะนั่งข้าง ๆผม แทะกิน เศษเนื้อปลาที่ติดอยู่ตามก้างปลาหลังจากที่ผมได้กินเนื้อปลาไปแล้ว ผมรู้สึกตื้นตันใจมาก..ผมพยายามแบ่งเนื้อปลาให้แม่ แต่แม่ปฎิเสธทันควันพร้อมกับกล่าวว่า "ลูกกินเถอะ...แม่ไม่ค่อยชอบกินเนื้อปลา" นี่เป็นครั้งที่ 2 ที่แม่โกหกผม
3.
เมื่อผมเรียนอยู่ชั้นมัธยม
เราต้องใช้เงินเพิ่มมากขึ้น แม่ต้องหารายได้พิเศษด้วยการรับงานเล็ก ๆน้อยจากโรงงานมาทำที่บ้าน บางครั้งผมตื่นขึ้นมาตอนตี 1 หรือตี 2...ผมยังเห็นแม่กำลังทำงาน "แม่ครับ...นอนเถอะครับมันดึกมากแล้ว พรุ่งนี้แม่ต้องไปทำงานอีก" แม่ยิ้มกับผมพูดว่า "ลูกนอนต่อก่อนนะ...แม่ยังไม่เหนื่อย...นอนไม่หลับ" ครั้งที่ 3 แล้วที่แม่โกหกผม
4.
ตอนเมื่อใกล้จบชั้นมัธยมผมต้องไปสอบเป็นวันสุดท้าย
แม่อุตส่าห์หยุดงานไปเป็นเพื่อนและเพื่อเป็นกำลังใจใ ห้ผม มันเป็นวันที่แดดร้อนมาก ๆ...แม่ต้องรอผมอยู่หลายชม. เมื่อผมทำข้อสอบเสร็จ...รีบออกมาหาแม่ เห็นแม่ผมมีเหงื่อออกท่วมตัว.. แต่ท่านกลับรินน้ำเย็นที่เตรียมมาให้ผมดื่ม ผมเห็นแม่รู้สึกเหนื่อยและร้อนจึงขอให้แม่ดื่มน้ำก่อน แม่พูดขึ้นว่า "ลูกดื่มเถอะ....แม่ยังไม่กระหายน้ำ" นั่นเป็นครั้งที่ 4 ที่แม่โกหกผม
5.
หลังจากที่พ่อผมล้มป่วยและเสียชีวิต
คุณแม่ที่น่าสงสารต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อหารายได้มาจุนเจือครอบครัว แต่ก็ยังไม่ค่อยเพียงพอไม่ว่าคุณแม่จะพยายามมากขึ้นเพียงไร คุณลุงที่อยู่ข้าง ๆบ้านท่านเป็นคนดี พยายามมาช่วยเหลือครอบครัวเราเสมอ....เช่นซ่อมแซมบ้า นที่ผุพัง..ฯลฯ เพื่อนบ้านเห็นครอบครัวลำบากมากก็แนะนำให้แม่แต่งงานใหม่ แต่แม่ยืนกรานไม่เห็นด้วย แม่พูดกับผมว่า "แม่มีลูกอยู่ทั้งคน...แม่ไม่ต้องความรักอีก" แม่โกหกผมเป็นครั้งที่ 5 แล้ว
6.
ในทื่สุดผมก็เรียนจบและมีงานทำ
ผมอยากให้แม่ซึ่งตรากตรำทำงานหนักมาตลอดได้พักผ่อนบ้าง แต่แม่ไม่ยอม.....กลับไปตลาดทุกเช้า ขายผักที่หามาได้เพื่อเลี้ยงชีพทั้ง ๆที่ผมพยายามส่งเงินมาให้แม่ (ผมต้องไปทำงานในเมืองที่ห่างไกล) แม่ผมไม่ค่อยยอมรับเงินผม..บางครั้งยังส่งเงินกลับคื นให้ผมอีก แม่พูดกับผมว่า "แม่มีเงินพอใช้แล้ว...ลูกควรเก็บเงินไว้สร้างฐานะ" แม่โกหกผมเป็นครั้งที่ 6
7.
เพื่ออนาคตที่ก้าวหน้า..
ผมตัดสินใจเรียนต่อปริญญาโทด้วยทุนของมหาวิทยาลัยที่ม ีชื่อเสียงในอเมริกา เมื่อผมเรียนจบก็ได้งานทำที่นั่นและมีเงินเดือนค่อนข้างสูง เมื่อทำงานไปได้สักพัก...ผมอยากให้แม่ผมมาอยู่กับผมที่อเมริกา เพื่อว่าแม่จะได้หยุดทำงาน...พักผ่อนให้สบายในบั้นปลายของชีวิต แต่แม่ผมไม่อยากรบกวนผม...บอกผมว่า "แม่ไม่คุ้นเคยกับชีวิตต่างแดน" ครั้งที่ 7 แล้วซินะที่แม่โกหกผม
8.
เมื่อแม่แก่ตัวลงไปเรื่อย ๆ..
ในที่สุดแม่ก็เป็นมะเร็งและต้องเข้ารับการผ่าตัดที่โรงพยาบาล ผมลางานแล้วรีบบินกลับมาหาแม่สุดที่รักทันที แม่ผมนอนพักฟื้นอยู่บนเตียงเมื่อผมไปถึง น้ำตาผมไหลอาบแก้มเมื่อเห็นแม่ซึ่งผ่ายผอมและดูทรุดโทรมลงอย่างมาก แม่รู้สึกดีใจมากที่เห็นผม....พยายามยิ้มอย่างสดชื่น ด้วยความลำบาก ผมรู้ดีว่าแม่ได้ฝืนความเจ็บปวดรวดร้าวอย่างสุดฝืน จากโรคมะเร็งร้ายที่ลามไปทั่วทั้งตัว ผมโอบกอดแม่พร้อมกับร้องไห้ด้วยความสงสาร หัวใจผมในขณะนั้นเศร้าหมองและเจ็บปวดอย่างที่สุด แม่พยายามปลอบผมด้วยเสียงที่แหบพร่าและสั่นเครือ "ลูกรักของแม่...เห็นหน้าลูกแม่ไม่รู้สึกเจ็บแล้ว" นี่เป็นครั้งที่ 8 ที่แม่โกหก และเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตของแม่ที่โกหกผม