เรื่องเล่าจากทะเลทราย


ได้ฟังเรื่องเล่าจากทะเลทราย ทำให้อดไม่ได้ที่จะนำมาขยายความต่อ ตามประสา คนอยากจะเขียน ฮ่าๆๆ ก็อยากจะเขียนจริงๆนี่ครับ เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า โม้มากไม่ค่อยดี เดี่ยวขี้เกียจอ่านกัน 

เรื่องมีอยู่ว่า ท้องทะเลทรายอันเวิ้งว้าง ใกลสุดลูกตา ใครเล่าจะคิดว่า จะมีหญิงสาวที่สวยสดงดงามปานเทพธิดา หล่นลงมาจากท้องฟ้า ใช่ เธอหล่นลงจากท้องฟ้า จริงๆ ก็หล่นลงมาจากเครื่องบินไงล่ะครับ และในท้องทะเลทรายอันเวิ้งว้างนั้น ไร้บ้าน ไร้ผู้คนเดินผ่านไปมา ช่างน่าสงสารอะไรปานนี้ สาวงามปานเทพธิดา นางนี้ ไม่รู้จะไปขอความช่วยเหลือจากใคร น้ำจะดื่มกินก็ไม่มี เสบียงอาหาร ก็ไม่มี อนาถแท้ชีวิต เกิดมาสวยสดงดงามปานนั้น ต้องมาตายกลางทะเลทรายเชียวหรือ

ดูแล้ว เธอช่างท้อแท้สิ้นหวังจริงๆ แต่แล้วโชคดีก็เข้าข้างเธอ เมื่อมีชายหนุ่มรูปงามราวกับเทพบุตรลงมาจุติ กำลังเดินจูงอูฐตัวเมีย ผ่านมาพอดี นับเป็นโชคดีของเธอจริงๆ เมื่อชายหนุ่มรูปงามเดินจูงอูฐตัวเมียมาถึง เธอก็ขอความช่วยเหลือ ชายหนุ่มก็ให้ความช่วยเหลือเธอผู้นั้น โดยส่งน้ำ ส่งเสบียงให้เธอ ชายหนุ่มได้ช่วยชีวิตเธอไว้ 

บุญคุณต้องทดแทน หญิงสาวสุดสวยก็เปรยกับชายหนุ่มว่า "ท่านได้ช่วยชีวิตเราไว้ เราเป็นหนี้ชีวิตท่าน แต่ตัวเราไม่มีของมีค่าใดๆจะตอบแทน ท่าน นอกจากตัวเราเอง ถ้าท่านจะเราตอบแทนบุญคุณท่าน ท่านจะให้เราทำสิ่งใด เรายินดีทำตามที่ท่านเรียกร้องทุกอย่าง"  ชายหนุ่มรูปงามได้ฟังดังนั้น ก็ยิ้มและสบตา กับหญิงงามนางนั้น อย่างมีความหมาย และความหวัง .....

และชายหนุ่มก็เอ่ยกับหญิงงาม นางนั้น "ถ้าอย่างนั้น แม่นาง ท่านช่วยเรา จับอูฐตัวนี้ให้มันอยู่นิ่งๆ สัก 30 นาที จะได้หรือไม่" ด้วยความฉงน หญิงสาวก็เดินมาจับ อูฐตัวเมียที่ชายหนุ่มจูงมาให้อยู่นิ่งๆ 

ด้วยความดีใจ ชายหนุ่มกล่าวขอบคุณหญิงสาว แล้วเดินไปด้านหลังอูฐตัวเมียทันที "ขอบคุณมากนะแม่นาง ข้าพยายามจะจัดการเจ้าอูฐตัวนี้มาหลายวันแล้ว เพิ่งจะสมหวังก็วันนี้แหละ"